พื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย  (Stamped Concrete)

พื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย  (Stamped Concrete) หากถามว่าทำไหมคอนกรีตพิมพ์ลายถึงได้รับความนิยม ตั้งแต่ปี 1978 คำตอบคือ คอนกรีตพิมพ์ลาย (Stamped Concrete) มีต้นทุนต่ำกว่าการใช้วัสดุธรรมชาติของจริง แต่เมื่อผลิตเสร็จแล้วจะมีความงามเหมือนหินธรรมชาติ สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับชิ้นงานได้ และยังมีความทนทาน แข็งแรง นับเป็นงานพื้นประเภทหนึ่งที่เป็นที่ดึงดูดใจของการก่อสร้างอย่างมาก คอนกรีตพิมพ์ลาย ( Stamped Concrete ) คือ เทคโนโลยีการพิมพ์ลวดลาย ลงบนผิวหน้าคอนกรีต สามารถเพิ่มสีเพื่อเสริมความแกร่ง และช่วยให้เกิดสีสันที่สวยงาม คอนกรีตพิมพ์ลาย ( Stamped Concrete ) สามารถพบเห็นได้ทั่วไป ทั้งในบ้านบ้านคลาสสิกในประเทศแถบตะวันตก อย่าง อิตาลี สเปน อังกฤษ หรือฝรั่งเศส เป็นต้น หรือนำมาทำเป็นพื้นถนน พื้นลานจอดรถ พื้นวงเวียน ทางเท้า พื้นสวน โชว์รูม สวนสนุก ขอบสระว่ายน้ำ ระเบียงร้านค้า และอื่นๆ Cr. https://cmould.co.th/2018/11/20/พื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย-stamped-concrete/

ผนังคอนกรีตพิมพ์ลาย / ชิ้นส่วนคอนกรีตสำเร็จรูป

ผนังคอนกรีตสำเร็จรูป หรือ Precast concrete คือทางเลือกใหม่สำหรับการก่อสร้างที่ต้องการความสะดวก ความแข็งแรง ไม่ต้องไปหล่อขึ้นรูปหน้างาน หรือก่ออิฐฉาบปูนแบบเก่าอีกต่อไป การหล่อผนังคอนกรีตสำเร็จรูปนั้นทำให้ได้ปูนที่มีความแข็งมากขึ้น ทนทาน อีกทั้งช่วยลดระยะเวลาการก่อสร้าง และลดต้นทุนเรื่องแรงงานไปในตัว ในปัจจุบันงาน Precast concrete สามารถเพิ่มมูลค่าได้ด้วยลวดลายที่เพิ่มเข้าไปบนผนัง ทำให้เกิดความสวยงาม และมีสีสันมากขึ้น ข้อดีของคอนกรีตพิมพ์ลายสำเร็จรูป คอนกรีตพิมพ์ลายสำเร็จรูปมีความแข็งแรงเพราะเราใช้ปูนคอนกรีตผสมเสร็จที่มีกำลังอัดสูง สามารถรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี คอนกรีตพิมพ์ลายสำเร็จรูปมีความประหยัดในด้านค่าใช้จ่ายกว่า ทั้งด้านเวลา ค่าคนงาน และไม่เปลืองค่าวัสดุซ้ำซ้อน คอนกรีตพิมพ์ลายสำเร็จรูปมีลวดลาย และสีสัน ที่คุณสามารถเลือกได้ ดังจินตนาการของคุณ คอนกรีตพิมพ์ลายสำเร็จรูปไม่ก่อเกิดตะไคร่น้ำอันอาจจะเกิดขึ้นได้บนชิ้นงาน คอนกรีตพิมพ์ลายสำเร็จรูปมีคุณภาพดี แข็งแรง คงทน รับน้ำหนักได้ดี แต่ราคาถูก   จากที่กล่าวมาทั้งหมด ทาง Cmould ได้มีน้ำยา Polyurethane สำหรับหล่อขึ้นรูปเป็นแม่พิมพ์ได้ ด้วย 10 ขั้นตอนง่าย ๆ คลิก! แม่พิมพ์คอนกรีตที่ทำจาก Polyurethane มีความยืดหยุ่นดี แข็งแรง เหนียว ไม่ฉีกขาดง่าย ทนทานต่อสารเคมีและความร้อนจากปูน ไม่หดตัว มีอายุการใช้งานยาวนาน และที่สำคัญ…

ซีเมนต์ กับ คอนกรีต ต่างกันอย่างไร?

ปูนซีเมนต์ + น้ำ + ทราย นี่แหละคือ “คอนกรีต” เทคโนโลยีการก่อสร้างบ้านเรือนเป็นอาคารปูนในประเทศไทยนั้น มีมาอย่างยาวนานกว่า 1,000 ปีแล้ว สังเกตเห็นได้จากโบราณสถาน วัด หรือ เทวาลัยต่าง ๆ ที่ไม่ได้นำแค่หินมาวางสร้างเป็นปราสาท แต่มีการผสานก่อนหินด้วยเคมีภัณฑ์ที่รวมวัสดุเหล่านั้นให้เป็นอาคารที่มีความแข็งแรง แต่ก็ยังมีชื่อเรียกที่สลับกันระหว่าง “ซีเมนต์” กับ “คอนกรีต” ที่ทำให้เราสับสนได้ว่ามันคืออะไร? เมื่อต้องการสร้างบ้านหากเรียกวิธีใช้วัสดุผิด ก็อาจได้บ้านที่ความแข็งแรงต่างกัน เพื่อให้แยกระหว่าง “ซีเมนต์” กับ “คอนกรีต” ด้ออกจากกัน พี่จระเข้มีวิธีอธิบายดังนี้ครับ ง “ซีเมนต์” ก็คือ ผงสารเคมี หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ วัสดุ ที่นำไปใช้ผลิตคอนกรีต (เท่ากับว่าซีเมนต์ เป็นส่วนย่อยของคอนกรีตนั่นเองครับ) เนื้อซีเมนต์ที่เป็นผง ๆ นี้ ได้รับการจดสิทธิบัตรของชาวอังกฤษในชื่อ ซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ เนื่องจากการคิดค้นเพื่อให้ได้มานี้ ทำให้สีของผงซีเมนต์ มีสีคล้ายกับหินของเกาะปอร์ตแลนด์ ในประเทศอังกฤษ โดย โยเซฟ แอสป์ดิน ในราวปี พ.ศ. 2367 วิธีการสร้างซีเมนต์ ทำมาจาก หินปูน…

ความสำคัญของคอนกรีต

1.ความสำคัญของคอนกรีต บทนำ                 เนื่องจากปัจจุบันคอนกรีตมีสำคัญกับงานก่อสร้างซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาของประเทศ     เมื่อเปรียบเทียบวัสดุก่อสร้างที่ใช้งานในประเภทเดียวกัน เช่น ไม้  ซึ่งเป็นวัสดุก่อสร้างหลักในสมัยก่อนและปัจจุบันไม้เป็นของหายาก พบว่า คอนกรีตมีความคงทน  แข็งแรง  สามารถปรับปรุงส่วนผสมเพื่อให้ตรงกับการใช้งานได้อย่างเหมาะสม  คอนกรีตจึงเป็นวัสดุที่ใช้งานอย่างแพร่หลาย 2.หลักการ คอนกรีต เป็นวัสดุผสมที่นิยมใช้ในงานก่อสร้างประกอบด้วย 3 ส่วนหลักคือ ปูนซีเมนต์ วัสดุผสม (เช่น หิน ทราย หรือ กรวด) และ น้ำ โดยอาจจะมีสารเคมีเติมเพิ่มเข้าไปสำหรับคุณสมบัติด้านอื่น เมื่อผสมเสร็จคอนกรีตจะแข็งตัวอย่างช้าๆ ซึ่งน้ำและซีเมนต์จะทำปฏิกิริยาทางเคมีกันในลักษณะที่เรียกว่าการไฮเดรชัน โดยซีเมนต์จะเริ่มจับตัวกับวัสดุอื่นและแข็งตัว ซึ่งในสถานะนี้จะนิยมเรียกกันว่าคอนกรีต ความแข็งแรงของคอนกรีตจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆหลังจากที่ผสม และยังแข็งแรงขึ้นภายหลังจากการแข็งตัว โดยประมาณหลังจากแข็งตัวแล้ว 28 วัน ความแข็งแรงจะเริ่มคงที่ คอนกรีตมีใช้กันในงานก่อสร้างหลายชนิด ซึ่งรวมถึง อาคาร ถนน เขื่อน สะพาน อนุสาวรีย์ และงานก่อสร้างต่างๆ ซึ่งมีเห็นได้ทั่วไป คุณสมบัติหลักของคอนกรีตคือการรับแรงอัดสูง ในขณะที่สามารถรับแรงดึงได้ต่ำ (ประมาณ 10% ของแรงอัด) โดยเมื่อต้องการให้คอนกรีตสามารถรับแรงดึง จะมีการเสริมวัสดุอื่นเพิ่มเข้าไปในคอนกรีตโดยจะเรียกว่า คอนกรีตเสริมแรง หรือคอนกรีตเสริมเหล็กที่เรียกกัน (โดยเสริมแรงด้วยเหล็ก) วัสดุเหล่านี้จะช่วยรับแรงดึงภายในคอนกรีต ซึ่งงานโครงสร้างอาคารส่วนใหญ่นิยมใช้คอนกรีตเสริมแรงแทนที่คอนกรีตเปลือย นอกจากนี้ในงานก่อสร้างยังมีการใช้วิธีการที่เรียกว่า คอนกรีตอัดแรง โดยทำการใส่แรงเข้าไปในคอนกรีตหล่อสำเร็จที่ หล่อมาจากโรงงาน โดยเมื่อนำไปใช้งาน แรงที่ใส่เข้าไปในคอนกรีตจะหักล้างกับน้ำหนักของตัวคอนกรีตเองและน้ำหนักที่ เพิ่มขึ้นมา ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้คอนกรีตสามารถรับน้ำหนักได้เพิ่มมากขึ้น โดยงานสะพานและทางยกระดับ นิยมใช้คอนกรีตอัดแรงคอนกรีต จะมีสัดส่วนปูนซีเมนต์ต่อทราย ต่อหิน ดังนี้ สัดส่วน 1 : 1.5 :…