บ้านหลังแรกต้องรู้! 10 ขั้นตอนก่อนตัดสินใจซื้อ
การซื้อ “บ้านหลังแรก” ถือเป็นหนึ่งในก้าวสำคัญของชีวิต เพราะนอกจากจะเป็นจุดเริ่มต้นของการมีทรัพย์สินที่มั่นคงแล้ว ยังเป็นภาระทางการเงินระยะยาวที่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ หากพลาดพลั้งเพียงเล็กน้อย อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและการเงินในอนาคตได้ ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้าน บทความนี้จะพาคุณไปดู 10 ขั้นตอนสำคัญที่มือใหม่ห้ามมองข้าม
ขั้นตอนที่ 1: ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
ก่อนมองหาบ้าน ต้องรู้ก่อนว่า “เราต้องการบ้านไปเพื่ออะไร”
คำถามที่ควรถามตัวเอง ได้แก่:
-
ต้องการบ้านเพื่ออยู่อาศัยเอง หรือเพื่อปล่อยเช่า/เก็งกำไร?
-
ต้องการบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือคอนโด?
-
บ้านควรอยู่ใกล้ที่ทำงาน โรงเรียนลูก หรือรถไฟฟ้า?
การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยกรองตัวเลือกได้เร็วขึ้น และลดความเสี่ยงในการตัดสินใจผิดพลาด
ขั้นตอนที่ 2: ประเมินกำลังซื้อของตนเอง
รู้ราคาบ้านอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้ด้วยว่า “เราผ่อนได้แค่ไหน”
โดยทั่วไปธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อให้ไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน
ตัวอย่าง:
รายได้ 30,000 บาท/เดือน → ยอดผ่อนที่เหมาะสม = ไม่เกิน 12,000 บาท/เดือน
ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่ควรเตรียม ได้แก่:
-
เงินดาวน์ (10–20% ของราคาบ้าน)
-
ค่าธรรมเนียมการโอน ภาษี
-
ค่าตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า
-
เงินสำรองฉุกเฉิน (อย่างน้อย 3–6 เดือนของค่าผ่อน)
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบเครดิตและวงเงินกู้
ก่อนยื่นกู้ ควรเช็กเครดิตบูโรว่ามีประวัติค้างชำระหรือไม่
หากมีหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคล ควรเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อน เพื่อเพิ่มโอกาสผ่านการอนุมัติ
แนะนำให้ขอสินเชื่อแบบ Pre-Approve จากธนาคารก่อน เพื่อรู้วงเงินที่กู้ได้จริง จะได้เลือกบ้านในงบที่เหมาะสม
ขั้นตอนที่ 4: เลือกทำเลอย่างมีกลยุทธ์
ทำเลคือปัจจัยที่ส่งผลต่อทั้งคุณภาพชีวิตและมูลค่าบ้านในอนาคต ควรพิจารณา:
-
การเดินทางสะดวก ใกล้ถนนใหญ่ ทางด่วน หรือรถไฟฟ้า
-
ใกล้ที่ทำงาน โรงเรียน โรงพยาบาล และแหล่งชุมชน
-
ศักยภาพของพื้นที่ เช่น โครงการพัฒนารถไฟฟ้าสายใหม่
หลายคนพลาดเพราะเลือกบ้านราคาถูกแต่เดินทางลำบาก เสียทั้งเวลาและค่าเดินทางทุกวัน
ขั้นตอนที่ 5: เลือกประเภทบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์
เลือกแบบบ้านที่ตรงกับวิถีชีวิตของคุณ:
ประเภทบ้าน | ข้อดี | ข้อจำกัด |
---|---|---|
บ้านเดี่ยว | พื้นที่ใช้สอยเยอะ เป็นส่วนตัวสูง | ราคาสูง ดูแลมาก |
ทาวน์โฮม | ราคาย่อมเยา เหมาะกับครอบครัวเล็ก | พื้นที่น้อย ผนังติดเพื่อนบ้าน |
คอนโด | อยู่ในเมือง ใกล้รถไฟฟ้า ราคาจับต้องได้ | พื้นที่จำกัด เสียงรบกวน ค่าส่วนกลาง |
ขั้นตอนที่ 6: สำรวจโครงการและเปรียบเทียบ
อย่าเลือกบ้านจากโฆษณาหรือโปรโมชั่นเพียงอย่างเดียว ควรเข้าไปดูโครงการจริง และเปรียบเทียบ:
-
คุณภาพงานก่อสร้างและวัสดุ
-
การออกแบบพื้นที่ใช้สอย
-
ระบบรักษาความปลอดภัย
-
ค่าบำรุงรายเดือน
-
ชื่อเสียงของผู้พัฒนาโครงการ
-
บริการหลังการขาย (Maintenance / Warranty)
ขั้นตอนที่ 7: ตรวจสอบเอกสารให้รอบคอบ
ก่อนเซ็นสัญญา ควรขอเอกสารและตรวจสอบให้ครบ:
-
ใบอนุญาตก่อสร้าง
-
โฉนดหรือสิทธิการถือครอง
-
แบบบ้านจริงและพื้นที่ใช้สอย
-
เงื่อนไขการผ่อนชำระและการโอนกรรมสิทธิ์
-
สัญญาจะซื้อจะขาย (ควรอ่านทุกบรรทัดอย่างละเอียด)
ขั้นตอนที่ 8: ยื่นขอสินเชื่อบ้าน
เตรียมเอกสารให้พร้อมเมื่อยื่นกู้:
-
สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน
-
สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้
-
รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
-
เอกสารเกี่ยวกับบ้าน เช่น ใบเสนอราคาหรือสัญญาจะซื้อจะขาย
เทคนิค: ยื่นขอสินเชื่อกับหลายธนาคารเพื่อเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและโปรโมชั่น
ขั้นตอนที่ 9: โอนกรรมสิทธิ์และตรวจรับบ้าน
เมื่อสินเชื่อผ่านแล้ว ต้องดำเนินการ 2 อย่าง:
1. ตรวจรับบ้าน
-
ตรวจสอบโครงสร้าง ผนัง พื้น สุขภัณฑ์ ระบบไฟฟ้า
-
ขอ checklist รายการตรวจรับบ้านจากโครงการ
2. โอนกรรมสิทธิ์
-
นัดโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดิน
-
ชำระเงินดาวน์และค่าธรรมเนียม
-
ธนาคารจะชำระส่วนที่เหลือให้กับผู้ขาย
ขั้นตอนที่ 10: วางแผนชีวิตและงบตกแต่ง
หลังจากกลายเป็นเจ้าของบ้านแล้ว ต้องเตรียม:
-
งบสำหรับตกแต่งและซื้อเฟอร์นิเจอร์
-
ค่าบำรุงรักษารายเดือน เช่น ค่าส่วนกลาง
-
ค่าน้ำ ค่าไฟ อินเทอร์เน็ต
-
เงินสำรองสำหรับเหตุฉุกเฉิน เช่น น้ำรั่ว ระบบไฟฟ้าชำรุด
สรุป: บ้านหลังแรก ต้องคิดให้ครบ
บ้านไม่ใช่แค่ “ที่อยู่” แต่คือ “ภาระผูกพันระยะยาว”
การตัดสินใจที่ดีต้องมีทั้งข้อมูลครบถ้วน การวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ และการเปรียบเทียบอย่างละเอียด
หากคุณกำลังวางแผนจะมีบ้านหลังแรกในเร็ว ๆ นี้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นคู่มือเริ่มต้นที่ทำให้คุณมั่นใจ และไม่พลาดสิ่งสำคัญในการตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต
หากคุณสนใจสร้างบ้านที่มีคุณภาพสูงสามารถติดต่อ www.pscgroup1988.co.th เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมและเริ่มต้นโครงการของคุณ